please wait loading...
Untitled Document
 
 ปีที่ 16 ฉบับที่ 3 ประจำเดือนมกราคม-เดือนมีนาคม 2563 ISSN 1686-5715 อ่าน
1.  DEVELOPMENT OF A WATERCOLOUR PAINTING TRAINING MODEL FOR HIGH SCHOOL VISUAL ART TEACHER
Author : Atipat Vijitsatitrat
Abstract
The purposes of this research were to develop a watercolour training model to enhance watercolour painting skills for secondary visual arts teachers and develop watercolour painting skills for secondary visual arts teachers. Examples of this research are visual arts teacher under the Office of the Basic Education Commission, totalling 20 people, which is obtained by purposive sampling. The tool used in research studies is a water paint training model to enhance watercolour painting skills for secondary visual arts teachers. The research found that a water paint training model to enhance watercolour painting skills for secondary visual arts teachers get a pattern that has seven steps – which are interview, group, explore, demonstration, practice, problem solving, and evaluation. The results of skills development of all 20 participants have higher self-assessment results in all aspects, with an average of self-assessment before class 0.66, an increase of 3.26 points which is at the right level according to the hypothesis. Keywords: watercolour painting, visual art teachers, training model, experience.
22
2.  NEEDS ANALYSIS ON ENGLISH LANGUAGE FUNCTIONS FOR HOTEL STAFF IN PHUKET PROVINCE
Author : Isara Kongtham
Abstract
The purpose of the study was to investigate the English Language functions for hotel staff while delivering their services. 30 hotel staff was simple random sampling and participated in this study. A questionnaire was used to collect the data and analyzed it by a computer program to find the frequency, percentage, mean, and standard deviation. The findings indicated five most pertinent functions of the English language in the hotel jobs were: 1) Saying apology, 2) Welcoming and greeting, 3) Offering assistance to guests, 4) Suggesting directions, and 5) Providing and explaining about hotel facilities and services. Keywords: English language functions, hotel staff, needs analysis.
23
3.  การสื่อสารอัตลักษณ์เด็กผ่าน Youtube
Author : เยาวนารถ พันธุ์เพ็ง
Abstract
การสื่อสารอัตลักษณ์เด็กผ่านยูทูป (Youtube) เด็กมีวิธีการเรียนรู้ผ่านระบบสัญลักษณ์ ในโลกดิจิทัล เด็กที่เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีโลกดิจิทัลสมัยใหม่ (digital generation) จึงมีมุมมอง ในโลก สังคม และวัฒนธรรม แตกต่างไปจากเด็กในโลกยุคก่อนดิจิทัล (pre-digital generation) ด้วยสื่อใหม่ที่มีบทบาทในการมีความสัมพันธ์ต่อการรับรู้ตัวตน (self) และการสร้างอัตลักษณ์ (identity) ของเด็กในโลกสมัยใหม่ สื่อที่มีการสื่อสารผ่านภาพเคลื่อนไหว และเสียง หรือวิดีโอ (video) ผ่านการ แบ่งปันผ่านสื่อสังคมเครือข่ายอย่าง ยูทูป (Youtube) นับเป็นสื่อที่กำลังอยู่ในกระแสนิยมของเด็ก เป็นอย่างมาก ในทุกครอบครัว ทุกสถานที่ ภาพเด็กที่จ้องมองดูสื่อวิดีโอในยูทูปแทบจะเป็นภาพธรรมดา เสมือนภาพเด็กดูโทรทัศน์ในยุคสมัยก่อนหน้านี้ เมื่อเด็กรับสารจากสื่อยูทูป (Youtube) เด็กเกิดการรับรู้ เรียนรู้ ถอดรหัส ตีความ เข้าใจ และแสดงออกทางภาษา ท่าทาง พฤติกรรม เป็นกระบวนการสื่อสารที่เกิดขึ้น แสดงถึงการรับสาร (passive) นั้น อาจจะยังไม่เห็นพฤติกรรมที่แสดงออกในทันที เช่น การเลียนแบบท่าทางตัวละครจาก สื่อ ภาษาที่ใช้ ซึ่งหมายถึงอัตลักษณ์ แต่เด็กจะมีการแสดงออกถึงอัตลักษณ์ และสนองตอบกลับไปยัง สื่อยูทูป (Youtube) ในเรื่องหรือเนื้อหาซ้ำ ๆ กับที่เคยดูดว้ ยการบันทึกวิดโี อของตนเองเพื่อแบง่ ปนั หรือ แชร์ไปในยูทูป (Youtube) ด้วยเช่นกัน คำสำคัญ: การสื่อสาร, อัตลักษณ์, ยูทูป, เด็ก
7
4.  8 ปัจจัยสำคัญ พัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อความสำเร็จอย่างยั่งยืนของ EEC
Author : ปริยา รินรัตนากร
Abstract
โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) เป็นแผน ยุทธศาสตร์ภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่จัดทำขึ้นเพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดการเติบโตทางด้าน เศรษฐกิจของประเทศไทย มีเป้าหมายที่จะดึงดูดนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศให้หันมา สนใจดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคตะวันออกของไทย ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง เพิ่มมากขึ้น เพื่อขยายความเติบโตทางเศรษฐกิจ นำพาประเทศไทยไปสู่ประเทศที่มี รายได้สูง หลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยสำคัญที่ต้อง พัฒนาว่า โครงการ EEC จะต้องเร่งพัฒนาในเรื่องใดบ้าง เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืนของโครงการ ซึ่งมีอยู่ 8 ประการด้วยกัน ได้แก่ พัฒนานวัตกรรม พัฒนาคน พัฒนากฎระเบียบ พัฒนาพื้นที่ พัฒนา การลงทุน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาอุตสาหกรรม และพัฒนาการสื่อสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพัฒนาการสื่อสารเพื่อสร้างการรับรู้ที่ถูกต้องชัดเจนเกี่ยวกับโครงการ EEC นับเป็นปัจจัยที่มีความ สำคัญต่อการสร้างการมีส่วนร่วมและสร้างการยอมรับต่อโครงการ EEC ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการ EEC ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน จะต้องเดินหน้าพัฒนาปัจจัยสำคัญต่าง ๆ ที่กล่าวมา ข้างต้นนี้อย่างชัดเจนและจริงจัง เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จของโครงการ EEC อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป คำสำคัญ: โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก, การพัฒนา, การสื่อสาร, ความสำเร็จอย่างยั่งยืน
14
5.  ความรับผิดชอบต่อสังคมของการดำเนินธุรกิจ: นวัตกรรมทางสังคมศตวรรษที่ 21 และอนาคต
Author : ธันยนันท์ สมบูรณ์รัตนโชค
Abstract
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ความรับผิดชอบต่อสังคมของการดำเนินธุรกิจเพื่อ นำไปสู่การพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นนวัตกรรมของกลไกการพัฒนาสังคมที่ท้าทายสำหรับ ในศตวรรษที่ 21 และในอนาคต ซึ่งความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรธุรกิจได้ถูกพัฒนาขึ้นจาก แนวความคิดสำคัญที่ว่า หากนำจุดแข็งของกลไกการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและพึ่งพา ตนเองของภาคธุรกิจมาดำเนินการภายใต้การกำหนดโจทย์ทางสังคม เป็นเป้าหมายเหมือนองค์กร ทางสังคมโดยมีกลไกรัฐเข้ามาสนับสนุนอย่างตั้งใจ จะสามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่แตกต่างและนำไปสู่ การเปลี่ยนแปลงสังคมได้อย่างมีนัยสำคัญได้ คำสำคัญ: ความรับผิดชอบต่อสังคม, การดำเนินธุรกิจ, นวัตกรรม, ศตวรรษที่ 21
22
6.  ธุรกิจระหว่างประเทศไทยและประเทศเวียดนาม
Author : พลกฤษณ์ ไพรสานฑ์วณิชกุล
Abstract
ประเทศเวียดนามถือเป็นประเทศหนึ่งที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจรวดเร็ว มีการพัฒนา ทางอุตสาหกรรม เกษตรกรรม โครงสร้างพื้นฐาน การค้าการลงทุน รวมถึงการขยายธุรกิจในประเทศ และนอกประเทศ ถือเป็นประเทศที่น่าจับตามมองมากในปัจจุบัน รวมถึงในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียน ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในประเทศยังมีอยู่จำนวนมาก เหมาะแก่การพัฒนา ประเทศ เห็นได้ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศในปี พ.ศ. 2561 เติบโตอยู่ที่ 217.8 พันล้านเหรียญ สหรัฐ ขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 10 ต่อปี เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2560 ประเทศไทยและประเทศเวียดนามถือเป็นคู่ค้าในการทำธุรกิจมายาวนาน ซึ่งเห็นได้ว่าสินค้า ส่งออกของประเทศเวียดนาม 3 อันดับแรก ได้แก่ โทรศัพท์มือถือและชิ้นส่วน สิ่งทอและเครื่อง นุ่งห่ม และเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนสินค้านำเข้า 3 อันดับแรก ได้แก่ เครื่องจักร เครื่องมือและอุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าสำคัญที่ประเทศไทยส่งออกไปประเทศเวียดนาม ได้แก่ ผลไม้สด แช่เย็น ผลไม้แช่แข็งและแห้ง รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญ ที่ไทยนำเข้าจากเวียดนาม ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน นํ้ามันดิบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ความร่วมมือระหว่างประเทศไทยกับประเทศเวียดนาม ถือเป็นประเทศใกล้เคียงกัน ได้มี ความตกลงหลายด้าน เช่น ความตกลงว่าด้วยการจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทาง เศรษฐกิจไทย-เวียดนาม ความตกลงว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน ความตกลงว่าด้วย การยกเว้นการเก็บภาษีซ้อน ความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราซึ่งกันและกันสำหรับผู้ถือ หนังสือเดนิ ทางทูตและหนงั สือเดินทางราชการ และการอำนวยความสะดวกในการตรวจลงตราสำหรับ หนังสือเดินทางธรรมดา เป็นต้น การกำหนดแนวทางการพัฒนาของประเทศเวียดนามให้ความสำคัญกับตลาด CLMV เป็น เสมือนตลาดเดียวกันกับประเทศไทย มุ่งเสริมสร้างความเชื่อมโยงในมิติการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับ CLMV พัฒนาเศรษฐกิจในเมืองหลักและส่งเสริมธุรกิจในเมืองรองให้พัฒนา ไปในทิศทางเดียวกันทุกด้านภายในประเทศ คำสำคัญ: การค้าการลงทุน, ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
5
7.  ปัญหาการบังคับใช้พระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551
Author : ชัชทพงษ์ เชื้อดี
Abstract
ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เกิดจากการที่ต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจเกี่ยวกับ การท่องเที่ยว เช่น ธุรกิจนำเที่ยว ร้านอาหาร ที่พักหรือโรงแรม หรือแม้กระทั่งร้านค้าที่เป็นจุดหมาย ปลายทางของโปรแกรมการท่องเที่ยว เกิดการผูกขาดในกิจกรรมการท่องเที่ยวซึ่งส่งผลกระทบในการใช้ ทรัพยากรภายในประเทศและรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาใช้จ่ายในประเทศ แต่บริษัททัวร์ ในประเทศกลับไม่ได้รับเงินในการบริหารจัดการการท่องเที่ยวภายในประเทศดังกล่าว แม้จะมีกฎหมาย ควบคุมธุรกิจนำเที่ยวคือ พระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 ซึ่งกำหนดให้ควบคุม เฉพาะผู้จัดตั้งธุรกิจนำเที่ยวเท่านั้นที่ต้องมีสัญชาติไทย ซึ่งอาจจะเป็นตัวแทนของชาวต่างชาติในการ ถือหุ้นหรือประกอบธุรกิจดังกล่าว อีกทั้งธุรกิจอื่นก็ได้ เช่น ร้านอาหาร ที่พักหรือโรงแรม และรวม ไปถึงร้านค้าปลายทางต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมการท่องเที่ยว จึงควรมีการควบคุมดูแลกิจการ ต่าง ๆ ทั้งหมดเพื่อป้องกันการผูกขาดจากชาวต่างชาติจนทำให้เกิดเป็นปัญหาดังกรณีทัวร์ศูนย์เหรียญ ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อรายได้หลักของประเทศ คำสำคัญ: การผูกขาดธุรกิจท่องเที่ยว, ทัวร์ศูนย์เหรียญ, พระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551
9
8.  การพัฒนาหนังสือเล่มเล็กโดยใช้ความเป็นจริงเสริมเพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สังกัดโรงเรียนในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 1
Author : สมชาย เมืองมูล
Abstract
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาหนังสือเล่มเล็กโดยใช้ความเป็นจริงเสริม 2) พัฒนา ทักษะการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของครูและนักเรียนต่อ การใช้งานหนังสือเล่มเล็กโดยใช้ความเป็นจริงเสริม กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สังกัดโรงเรียนในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 1 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) หนังสือเล่มเล็กโดยใช้ความเป็นจริงเสริม 2) แบบวัดทักษะการอ่าน 3) แบบประเมินพฤติกรรม รักการอ่าน 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของครูและนักเรียนต่อการใช้งานหนังสือเล่มเล็กโดยใช้ ความเป็นจริงเสริม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน พบว่า 1) ผู้วิจัยพัฒนาหนังสือเล่มเล็กโดยใช้ความเป็นจริงเสริม จำนวน 6 เล่ม 2) นักเรียนมีทักษะ การอ่านระดับสูง คิดเป็นร้อยละ 75.61 และนักเรียนมีพฤติกรรมรักการอ่านในภาพรวมอยู่ในระดับดี 3) ครูและนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้งานหนังสือเล่มเล็กโดยใช้ความเป็นจริงเสริม อยู่ใน ระดับมาก คำสำคัญ: หนังสือเล่มเล็ก, ทักษะการอ่าน, ความเป็นจริงเสริม, นักเรียนชั้นประถมศึกษา
9
9.  การพัฒนาระบบดิจิทัลคอมเมิร์ชเพื่อส่งเสริมการตลาดของผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
Author : ชนินทร์ มหัทธนชัย และคณะ
Abstract
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างองค์ความรู้ทางการตลาดและพัฒนาระบบดิจิทัลคอมเมิร์ช ส่งเสริมการตลาดของผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ การดำเนินงานแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ 1) การศึกษางานด้านการตลาดจำหน่ายสินค้าของชุมชน 2) พัฒนา ระบบดิจิทัลคอมเมิร์ชส่งเสริมการตลาดของผลิตภัณฑ์ชุมชน 3) การจัดอบรมให้ความรู้ด้านการตลาด และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล การประเมินผลจะประเมินจากผลสัมฤทธิ์ด้านความรู้และความพึงพอใจ ในการอบรม กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้ประกอบการในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 80 คน และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน จำนวน 3 กลุ่ม เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง พบว่าการตลาดชุมชนโดย ส่วนใหญ่มีการจำหน่ายในชุมชนและการออกร้านในงานแสดงสินค้า ส่วนการจำหน่ายในสื่อออนไลน์ มีเพียงบางส่วน การพัฒนาดิจิทัลคอมเมิร์ชให้วิสาหกิจชุมชนจะเป็นการเพิ่มช่องทางในการจำหน่าย สินค้า ผู้เข้าอบรมมีทักษะด้านการตลาดและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มขึ้นโดยผลการทดสอบ ก่อนเรียน มีค่าคะแนนเฉลี่ย 7.25 และผลการทำแบบทดสอบหลังเรียน มีค่าคะแนนเฉลี่ย 15.76 ความพึงพอใจในการอบรมมีค่าระดับคะแนน 4.34 จัดอยู่ในระดับความพึงพอใจมาก คำสำคัญ: ดิจิทัลคอมเมิร์ซ, อีคอมเมิร์ซ, ตลาดดิจิทัล, การตลาด, หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์, แม่ริม
22
10.  สิทธิของผู้ต้องหาในการอุทธรณ์คำสั่งไม่ปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวน
Author : คมสัน สุขมาก
Abstract
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวคิด ทฤษฎี และกฎหมายคุ้มครองสิทธิของผู้ต้องหา ในการอุทธรณ์คำสั่งไม่ปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวนโดยศึกษาเปรียบเทียบกับกฎหมายของ ต่างประเทศและกฎหมายของประเทศไทย รวมถึงวิเคราะห์ปัญหาที่ผู้ต้องหาไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่ง ไม่ปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวน และปัญหาระยะเวลาการควบคุมตัวผู้ต้องหาในชั้นสอบสวน ตลอดจนปัญหาบุคคลผู้มีอำนาจในการพิจารณาใช้ดุลยพินิจไม่ปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของผู้ต้องหา เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว พบว่า เมื่อบุคคลถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย ย่อมตกเป็นผู้ต้องหาและถูกควบคุมตัวไว้ เพื่อสอบสวนที่สถานีตำรวจภายในเวลา 48 ชั่วโมง นับแต่เวลาที่ผู้ถูกจับถูกนำตัวไปถึงที่ทำการของ พนักงานสอบสวน ผู้ต้องหาประสงค์ที่จะขอปล่อยตัวชั่วคราวโดยยื่นเสนอต่อผู้มีอำนาจพิจารณาคือ หัวหน้าพนักงานสอบสวน เมื่อผู้มีอำนาจพิจารณาแล้วสั่งไม่ปล่อยตัวชั่วคราว คำสั่งดังกล่าวถือเป็น ที่สิ้นสุด การพิจารณาการคัดค้านการควบคุมตัวในชั้นสอบสวนไม่ได้ถูกบัญญัติไว้ในกฎหมายและ ระยะเวลาในการควบคุมตัวผู้ต้องหาในชั้นสอบสวนก่อนฟ้องคดียาวนานเกินไปสำหรับบางคดี รวมถึงการใช้ดุลยพินิจของผู้มีอำนาจในการสั่งไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราว ขาดการตรวจสอบถ่วงดุลอาจ อาจทำให้ผู้ต้องหาเสียสิทธิและเสรีภาพ และไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรม จึงเห็นควรเพิ่มเติมข้อความตามวรรคท้ายประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 108/1 โดยบัญญัติว่า “ให้ผู้ต้องหามีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งไม่ปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวนต่อผู้บังคับบัญชา ที่มีอำนาจสูงกว่าอีกระดับชั้นหนึ่งเป็นผู้พิจารณา โดยผลการอุทธรณ์ให้ถือเป็นที่สิ้นสุด และเห็นควร แก้ไขมาตรา 87 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยจำกัดเวลาควบคุมตัวผู้ต้องหาให้ สั้นลง รวมทั้งให้มีคณะกรรมการพิจารณาปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาในชั้นสอบสวนระดับสถานีตำรวจประกอบด้วย 1) หัวหน้าสถานี 2) หัวหน้างานป้องกันปรามปราม 3) หัวหน้างานสืบสวน 4) หัวหน้า งานสอบสวน และ 5) พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี คำสำคัญ: สิทธิของผู้ต้องหา, ชั้นสอบสวน, การปล่อยตัวชั่วคราว
25
11.  ตัวแบบการลดความสูญเสียจากประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรที่ส่งผลต่อต้นทุนการฟื้นฟูกิจการของ ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SME)
Author : กริชชัย ขาวจ้อย
Abstract
การวิจัยนี้ศึกษาประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรดำเนินการ และความสูญเสียในการดำเนินการ ที่มีอิทธิพลต่อต้นทุนในการดำเนินการของผู้ประกอบการ SMEs ประชากรคือผู้ประกอบการ SMEs ที่ขึ้นทะเบียนโครงการเงินกู้ Micro SME กับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเพื่อใช้ ฟื้นฟูกิจการ ใช้แบบสอบถามเก็บข้อมูล จำนวน 300 ราย ด้วยการสุ่มแบบเจาะจง ใช้การวิเคราะห์สถิติ เชิงพรรณนาและการวิเคราะห์ตัวแบบสมการโครงสร้าง พบว่า 1) ทั้ง 3 ตัวแปร ได้แก่ ประสิทธิภาพ การใช้ทรัพยากร ความสูญเสีย และต้นทุนในการดำเนินการของผู้ประกอบการ SMEs มีค่าเฉลี่ย ในระดับมาก 2) ตัวแบบการวิจัยมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ 3) ประสิทธิภาพการใช้ ทรัพยากรดำเนินการมีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญต่อความสูญเสียในการดำเนินการของ ผู้ประกอบการ SMEs และ 4) ประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรดำเนินการมีอิทธิพลทางอ้อมเชิงบวก อย่างมีนัยสำคัญต่อต้นทุนในการดำเนินการของผู้ประกอบการ SMEs ผ่านความสูญเสียในการดำเนิน การ โดยมีข้อเสนอแนะว่า ผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องการฟื้นฟูกิจการ ควรให้ความสำคัญและมุ่งใช้ ทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และลดความสูญเสียในการผลิตที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นอิทธิพลสำคัญต่อ ต้นทุนการฟื้นฟูกิจการ คำสำคัญ: ตัวแบบ, ความสูญเสีย, ประสิทธิภาพ, ทรัพยากร, ต้นทุน, ผู้ประกอบการ, เอสเอ็มอี, ฟื้นฟูกิจการ
13
12.  การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือรูปแบบ STAD ร่วมกับกระบวนการสอนแบบ MIAP รายวิชาไมโครคอนโทรลเลอร์
Author : ฤทัย ประทุมทอง
Abstract
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้รูปแบบ การเรียนการสอนโดยใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือรูปแบบ STAD ร่วมกับกระบวนการเรียนรู้ แบบ MIAP รายวิชาไมโครคอนโทรลเลอร์ โดยมีสมมติฐานของการวิจัย คือ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐานของเมกุยแกนส์ 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านทักษะ มีคะแนน เฉลี่ยร้อยละ 75 และ 3) ผู้เรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักศึกษาที่ ลงทะเบียนเรียนรายวิชาไมโครคอนโทรลเลอร์ หลักสูตรครุศาสตร์อุตสาหกรรมบัณฑิต หลักสูตร ปรับปรุง พ.ศ. 2558 สาขาวิชาวิศวกรรมแมคคาทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย จำนวน 19 คน โดยเลือกแบบเจาะจงตามสภาพจริง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แผนการ จัดการเรียนรู้ แบบทดสอบ และแบบประเมินความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การหาวิเคราะห์ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ และการหาประสิทธิภาพตามเกณฑ์ มาตรฐานของเมกุยแกนส์ ผลการวิจัยพบว่า 1) แผนการจัดการเรียนรู้รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้เทคนิคการเรียนรู้ แบบร่วมมือรูปแบบ STAD ร่วมกับกระบวนการเรียนรู้แบบ MIAP รายวิชาไมโครคอนโทรลเลอร์ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานของเมกุยแกนส์ 2) กลุ่มตัวอย่างมีผลสัมฤทธิ์ทางการ เรยี นดา้ นทกั ษะมคี า่ เฉลี่ยรอ้ ยละ 93.76 และ 3) ผลการประเมนิ ความพึงพอใจของผเู้ รยี นโดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด คำสำคัญ: รูปแบบการเรียนการสอน, เทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ, แผนการจัดการเรียนรู้
4
13.  การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและระบบการคัดเลือกนักศึกษา ระดับปริญญาตรี
Author : พจมาน เตียวัฒนรัฐติกาล
Abstract
งานวิจัยนี้เป็นการใช้เครื่องมือทางสถิติหาความสัมพันธ์ระหว่างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ นักศึกษาระดับปริญญาตรีของภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการที่มาจากระบบการคัดเลือกเข้าศึกษา ที่แตกต่างกัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอแนวทางในการกำหนดเกณฑ์การคัดเลือกนักศึกษาใน อนาคต โดยเก็บข้อมูลผลการเรียนเฉลี่ยสะสม (GPAX) ของนักศึกษารหัส 55, 56, 57 และ 58 ที่ผ่าน ระบบการคัดเลือกเข้าศึกษา แบ่งเป็น 2 รูปแบบคือ รูปแบบที่ใช้คะแนนสอบชนิดต่าง ๆ มี 4 กลุ่ม ได้แก่ GAT/PAT, เรียนดี, แอดมิชชันกลาง และรับตรงเคลียริ่งเฮาส์ ส่วนอีกรูปแบบหนึ่งคือรูปแบบ ที่ไม่ได้ใช้คะแนนสอบหรือระบบโควต้ามี 4 กลุ่ม ได้แก่ 2B-KMUTT, ราชบุรี, สมาคมนักศึกษาเก่า และ Active Recruitment ในการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่าง GPAX กับระบบการคัดเลือกเข้าศึกษา ได้ประยุกต์ใช้เครื่องมือทางสถิติคือ แผนผังการกระจายและแผนภูมิแท่ง พบว่า GPAX มีความสัมพันธ์ กับระบบคัดเลือก นอกจากนี้ยังพบว่า GPAX ของนักศึกษาที่ผ่านระบบการคัดเลือกเข้าศึกษาในรูปแบบ ที่ใช้คะแนนสอบมีแนวโน้มค่า GPAX สูงกว่า หรือมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ดีกว่านักศึกษาที่ผ่านการ คัดเลือกเข้าศึกษาในรูปแบบที่ไม่ได้ใช้คะแนนสอบดังนั้น งานวิจัยนี้จึงเสนอแนวทางในการกำหนดเกณฑ์ของนักศึกษาที่ผ่านระบบการคัดเลือก เข้าศึกษา รูปแบบที่ไม่ได้ใช้คะแนนสอบสำหรับการพิจารณารับนักศึกษา เพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนของนักศึกษากลุ่มนี้ต่อไป คำสำคัญ: ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน, ผลการเรียนเฉลี่ยสะสม, ระบบคัดเลือก, เกณฑ์การคัดเลือก นักศึกษา
13
14.  การพัฒนาฐานข้อมูลผักพื้นบ้านในพื้นที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
Author : ศิริกรณ์ กันขัติ์
Abstract
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาชนิดของผักพื้นบ้าน 2) เพื่อพัฒนาระบบฐานข้อมูล ผักพื้นบ้าน และ 3) เพื่อประเมินผลความพึงพอใจในการใช้งานระบบฐานข้อมูลผักพื้นบ้านในพื้นที่ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ใช้วิธีวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม เลือกกลุ่มตัวอย่างจากการสุ่ม แบบเจาะจง โดยเลือกตำบลช่อแล จำนวน 6 หมู่บ้าน ได้กลุ่มตัวอย่าง 6 คน คือ ปราชญ์ชาวบ้าน ด้านภูมิปัญญาท้องถิ่นผักพื้นบ้าน 3 คน ปราชญ์ชาวบ้านด้านการประกอบอาหาร 3 คน เครื่องมือที่ใช้ ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ชนิดของผักพื้นบ้าน 2) ระบบฐานข้อมูล ผักพื้นบ้าน และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจในการใช้งานระบบฐานข้อมูลผักพื้นบ้าน จากการ สัมภาษณ์พบข้อมูลผักพื้นบ้านทั้งหมด 31 ชนิด จำแนกได้ 19 วงศ์ หลังจากนั้นได้ออกแบบและพัฒนา ฐานข้อมูลโดยใช้โปรแกรมจัดการฐานข้อมูล MySQL เขียนโปรแกรมภาษา PHP และจัดทำเว็บไซต์ โดยใช้โปรแกรม Dreamweaver มีรายละเอียดของผักพื้นบ้าน ดังนี้ ชื่อภาษาไทย ชื่อภาษาอังกฤษ ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ลักษณะ การใช้เป็นอาหาร ข้อมูลโภชนาการ คุณประโยชน์ และวิธีปลูก และได้นำระบบฐานข้อมูลไปเผยแพร่ให้เกิดประโยชน์กับนักเรียน ผลจากการประเมินความพึงพอใจ ในการใช้งานระบบ ประเมินโดยนักเรียนโรงเรียนชุมชนวัดช่อแล จำนวน 26 คน พบว่าผู้ใช้ฐานข้อมูล มีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมาก คำสำคัญ: ผักพื้นบ้าน, ภูมิปัญญา, ฐานข้อมูล, อำเภอแม่แตง
29
15.  แนวทางส่งเสริมความฉลาดทางสังคมของนักศึกษาครู มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี
Author : อัฐฉญา แพทย์ศาสตร์
Abstract
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอแนวทางการส่งเสริมความฉลาดทางสังคมของนักศึกษาครู มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี โดยกำหนดผู้เข้าร่วมสนทนากลุ่ม จำนวน 10 คน วิเคราะห์ข้อมูล ด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา และการสนทนากลุ่ม พบว่าควรจัดกิจกรรมค่าย ชมรม หรือโครงการเพื่อ ศึกษาเรียนรู้สังคมจริง เน้นการตระหนักรู้ทางสังคม มีการลงพื้นที่ ไม่ยึดติดกับห้องเรียนหรือมีการ สอดแทรกในรายวิชา เพื่อการตัดสินใจแสดงพฤติกรรมที่เหมาะสมต่อสถานการณ์นั้น เกิดการเรียนรู้ ที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่นและฝึกปฏิบัติในเรื่องมารยาท การแสดงออกทางด้านความรู้สึกและการสร้าง ความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น การเป็นผู้นำ การสื่อสาร และการรับฟังผู้อื่น คำสำคัญ: ความฉลาดทางสังคม, นักศึกษาครู, มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี
22
16.  การศึกษารายกรณีของเด็กและวัยรุ่น
Author : ศิริภิญญา ตระกูลรัมย์
Abstract
การศึกษารายกรณี เป็นกระบวนการศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือ หลายคนเป็นระยะเวลาต่อเนื่องกันไปในระยะเวลาหนึ่ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหาทางช่วยให้บุคคล สามารถปรับตัวและพัฒนาตัวเองได้ การศึกษารายกรณีประกอบด้วยสาระสำคัญ ได้แก่ ความหมาย ของการศึกษารายกรณี วัตถุประสงค์ของการศึกษารายกรณี เหตุผลของการใช้การศึกษารายกรณี การรวบรวมข้อมูลเพื่อการศึกษารายกรณี การคัดเลือกนักเรียนเพื่อศึกษารายกรณี ลำดับขั้นของการ ศึกษารายกรณี จุดแข็งและข้อจำกัดของการศึกษารายกรณี ซึ่งการศึกษาเด็กและวัยรุ่นนั้น การศึกษา รายกรณีจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการเข้าใจพฤติกรรมของบุคคล และหาแนวทางเพื่อช่วยแก้ไข ป้องกัน และพัฒนาเด็กและวัยรุ่นต่อไป คำสำคัญ: การศึกษารายกรณี, เด็ก, วัยรุ่น
9
17.  การเปิดรับข่าวสารเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาของประชาชนที่อาศัยในชุมชนใกล้เคียง มหาวิทยาลัย
Author : สาวิตรี สุวรรณโณ
Abstract
การวิจัยเรื่องการเปิดรับข่าวสารเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาในทัศนะของ ประชาชนที่อาศัยในชุมชนใกล้เคียงมหาวิทยาลัย มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการเปิดรับข่าวสารและศึกษา ความสัมพันธ์ของการเปิดรับข่าวสารกับภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัยในสายตาของประชาชนที่อาศัย ในชุมชนใกล้เคียงมหาวิทยาลัยในเขตดุสิต จำนวน 6 ชุมชน เป็นการวิจัยเชิงปริมาณโดยใช้แบบสอบถาม ในการเก็บรวมรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 360 คน ใช้สถิติ t-test การวิเคราะห์ความแปรปรวน (ANOVA) และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson’s product moment correlation coefficient) ในการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เปิดรับข่าวสารเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย ราชภัฏสวนสุนันทาอยู่ในระดับบ่อย โดยเปิดรับจากสื่อบุคคลมากที่สุด จากการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ประชาชนที่มีลักษณะทางประชากรด้านเพศ อายุ และชุมชนที่แตกต่างกัน มีการเปิดรับข่าวสาร ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 ในขณะที่ไม่พบความ แตกต่างระหว่างกลุ่มตัวอย่างที่มีรายได้แตกต่างกัน โดยการเปิดรับข่าวสารมีความสัมพันธ์กับภาพ ลักษณ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01 คำสำคัญ: การประชาสัมพันธ์, การเปิดรับข่าวสาร, ชุมชนใกล้เคียง, มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
17
18.  ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจจ้างแรงงานต่างด้าวของผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ในจังหวัดชลบุรี
Author : พรพนา ดีรักษา
Abstract
บทความนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจจ้างแรงงานต่างด้าว ของผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในจังหวัดชลบุรี 2) เพื่อศึกษาปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจจ้างแรงงานต่างด้าวของผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในจังหวัดชลบุรี 3) เพื่อศึกษาข้อมูลทั่วไปของสถานประกอบการที่ส่งผลต่อการตัดสินใจจ้างแรงงานต่างด้าวของ ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในจังหวัดชลบุรี 4) เพื่อศึกษาสาเหตุของการจ้างแรงงานต่างด้าว ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจจ้างแรงงานต่างด้าวของผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในจังหวัดชลบุรี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างในจังหวัดชลบุรี จำนวน 310 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถาม แบบมาตราส่วน 5 ระดับ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว การทดสอบรายคู่ ด้วยวิธี LSD และการวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณ พบว่าการตัดสินใจจ้างแรงงานต่างด้าวของ ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในจังหวัดชลบุรี และระดับความคิดเห็นในการตัดสินใจจ้างแรงงาน ต่างด้าว โดยรวมอยู่ในระดับมาก โดยพบว่าอายุของผู้ประกอบการ ลักษณะของสถานประกอบการ ตามทุนจดทะเบียน ระยะเวลาการจ่ายค่าจ้างแรงงาน ค่าจ้างแรงงานผู้ชาย ส่งผลต่อการตัดสินใจจ้างแรงงานต่างด้าวของผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในจังหวัดชลบุรี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 สาเหตุของการจ้างแรงงานต่างด้าวส่งผลต่อการตัดสินใจจ้างแรงงานต่างด้าวของผู้ประกอบการธุรกิจ รับเหมาก่อสร้างในจังหวัดชลบุรี ได้แก่ ด้านการปกครองดูแล ด้านต้นทุนกิจการ และการขาดแคลน แรงงาน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 คำสำคัญ: สาเหตุการจ้าง, การตัดสินใจจ้าง, ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง
17
19.  ปัจจัยด้านการฝึกอบรมด้านระบบการจัดการคุณภาพ (ISO 9001) ที่มีอิทธิพลต่อผลการปฏิบัติงาน ของพนักงานบริษัทรับสร้างโรงงานผลิตเหล็กแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง
Author : ธันธวัช เหลือชม
Abstract
วัตถุประสงค์ของการวิจัยคือ 1) เพื่อศึกษาระดับการปฏิบัติงานด้านระบบคุณภาพ ISO 9001 ของพนักงานบริษัทรับสร้างโรงงานผลิตเหล็ก 2) เพื่อเปรียบเทียบระดับผลการปฏิบัติงานด้านระบบ คุณภาพ ISO 9001 ของพนักงานบริษัทรับสร้างโรงงานผลิตเหล็ก โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ 3) เพื่อศึกษาระดับอิทธิพลของปัจจัยด้านการฝึกอบรมที่มีต่อผลการปฏิบัติงานด้านระบบคุณภาพ ISO 9001 ของพนักงานบริษัทรับสร้างโรงงานผลิตเหล็ก กลุ่มตัวอย่างคือ พนักงานที่ทำงานอยู่ใน บริษัทรับสร้างโรงงานผลิตเหล็กในจังหวัดระยอง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถาม สถิติที่ใช้คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบที การวิเคราะห์ความแปรปรวน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคุณ พบว่า 1) กลุ่มตัวอย่างให้คะแนนผลการปฏิบัติงานด้านระบบ คุณภาพ ISO 9001 ด้านประสิทธิผลโดยมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด รองลงมาคือ ด้านระยะเวลา 2) กลุ่ม ตัวอย่างที่มีปัจจัยส่วนบุคคลแตกต่างกันด้านอายุ ระดับการศึกษา และตำแหน่งงาน จะมีประสิทธิผล แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนกลุ่มตัวอย่างที่มีปัจจัยส่วนบุคคลแตกต่างกัน ด้านเพศ อายุ และตำแหน่งงาน จะมีระยะเวลาการปฏิบัติงานที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 และ 3) ปัจจัยด้านการฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ ความน่าเชื่อถือ และการ นำไปใช้ประโยชน์ จะส่งผลต่อประสิทธิผลอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนปัจจัยด้านการฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ การนำไปใช้ประโยชน์ และการตอบสนอง จะส่งผลต่อระยะเวลา การปฏิบัติงานอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 คำสำคัญ: โปรแกรมฝึกอบรม, ระบบการจัดการคุณภาพ, ไอเอสโอ 9001, โรงงานผลิตเหล็ก
7
20.  การบริหารจัดการความเสี่ยงในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
Author : กฤษนิล เกียรติธนศักดิ์
Abstract
บทความนี้ให้ข้อมูลกับผู้ประกอบการธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในเรื่องการบริหารจัดการ ความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจ เพราะความนิยมในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์นั้นมีมากขึ้น เรื่อย ๆ เนื่องจากเทคโนโลยีที่พัฒนาแบบก้าวกระโดด รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง ไปตามกาลเวลา ส่งผลให้ตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เติบโตไปด้วย ทั้งจำนวนผู้ซื้อและผู้ขายที่เพิ่ม มากขึ้น ผู้ประกอบการสามารถเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจซื้อขายสินค้าและบริการโดยผ่านช่องทาง ออนไลน์หรือที่เรียกว่า ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-commerce) เป็นการลดช่องว่างและ เพิ่มศักยภาพทางการแข่งขัน โดยสามารถขยายช่องทางการตลาดเพิ่มมากขึ้นทั้งในประเทศและ ต่างประเทศ สามารถเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สินค้าให้เป็นที่รู้จักครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น ทำให้บริษัทขนาดเล็กมีโอกาสเติบโตสามารถแข่งขันกับบริษัทขนาดใหญ่ได้ นับเป็นโอกาสของ ผู้ประกอบการทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ที่จะพัฒนาธุรกิจหรือขยายฐานลูกค้าไปยังต่างประเทศ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ความสำเร็จในการประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ย่อมมาจากปัจจัยหลายประการ โดยปัจจัยที่สำคัญมากประการหนึ่งคือ การบริหารจัดการความเสี่ยง เพราะการประกอบธุรกิจพาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์นั้นมีความเสี่ยงเหมือนกับการประกอบธุรกิจอื่น ๆ และมีความเสี่ยงบางประการที่ แตกต่างกันที่ผู้ประกอบการต้องเตรียมตัวรับมือ ความเสี่ยงในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มีทั้งความ เสี่ยงที่มีอยู่เดิม เช่น ความเสี่ยงในการกำหนดแผนกลยุทธ์ ความเสี่ยงด้านการดำเนินงาน ความเสี่ยง ด้านการเงิน เป็นต้น และมีความเสี่ยงประเภทที่อาจเกิดขึ้นใหม่กับธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น ความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยออนไลน์ ความน่าเชื่อถือของระบบ ความเป็นส่วนตัว หรือความ เสี่ยงในกฎหมายและกฎระเบียบที่ควบคุม ภาระภาษี และเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลง ความเสี่ยง ที่ยกตัวอย่างเหล่านี้ล้วนเป็นข้อเสียกับการประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งสิ้น การบริหารความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ ผู้ประกอบการสามารถลดความเสี่ยงลง และมีโอกาสในการแข่งขันหรือการทำกำไรเหนือกว่าคู่แข่งขัน ทางธุรกิจได้ คำสำคัญ: ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์, การบริหารจัดการความเสี่ยง, ผู้ประกอบการ
8